Noun
(คำนาม)
คำนาม (noun) คือ คำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์
สิ่งของ และนามธรรม แบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้แก่ คำนามเอกพจน์และพหูพจน์
คำนามทั่วไปและคำนามเฉพาะ คำนามที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม คำนามนับได้และนับไม่ได้
และคำนามที่กล่าวถึงสิ่งต่างๆ ในลักษณะเป็นกลุ่ม เช่น student, policeman,
dog, snake, airport, river, television, sugar, love
ประเภทของคำนาม
1. common noun (คำนามทั่วไป)
เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์
สถานที่ สิ่งของ สภาวะทั่วๆ ไปความคิด (person,
animal, place, thing, idea) โดยไม่เฉพาะเจาะจง กล่าวโดยสรุปคือ
คำนามทั้งหลายที่ไม่ใช่ proper nouns คือ common
nouns เช่น
สิ่งของ : sign, table, hill,
water, sugar, atom
สถานที่ : city, hill, road,
stadium, school, company
เหตุการณ์ : revolution, journey,
meeting
ความรู้สึก : fear, hate, love
เวลา : year, minute,
millennium
Occupations
คำนามที่เกี่ยวกับอาชีพ
|
musician
นักดนตรี
|
carpenter
ช่างไม้
|
vet
สัตวแพทย์
|
farmer
ชาวนา
|
Animal Nouns
คำนามที่เกี่ยวกับสัตว์
|
horse
ม้า
|
snake
งู
|
mosquito
ยุง
|
tiger
เสือ
|
Fruit & vegetables คำนามที่เกี่ยวกับผักผลไม้
|
pineapple สับปะรด
|
water-melon แตงโม
|
corn
ข้าวโพด
|
carrot
หัวผักกาด
|
Things in a house คำนามที่เกี่ยวกับสิ่งของ
|
stove
เตา
|
refrigerator ตู้เย็น
|
bed
เตียง
|
cell phone โทรศัพท์
|
Clothes
คำนามที่เกี่ยวกับเสื้อผ้า
|
trousers กางเกง
|
skirt
กระโปรง
|
socks
ถุงเท้า
|
shoes
รองเท้า
|
จะต้องขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่เสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของประโยค
1. เป็นคำนามที่เป็นชื่อเฉพาะของ Common Noun เช่น
· Person
Name (ชื่อคน) เช่น Somsak , Tom, Daeng
· Place
Name (ชื่อสถานที่) เช่น Australia, Bangkok, Sukhumvit Road,
Toyota
· Time
name (ชื่อบอกระยะเวลา) เช่น Saturday,
January, Christmas
2. Proper
Nouns จะต้องเขียนขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่ (Capital letter)
3. Proper
Nouns ปกติจะไม่มี determiner นำหน้า
นอกจากอยู่ในรูปของพหูจน์ เช่น
· the
United States
4. เปรียบเทียบระหว่าง common
nouns และ proper nouns
Common Nouns
|
Proper Nouns
|
dog
|
Lassie ( ชื่อของสุนัข )
|
boy
|
Jack ( ชื่อของเด็กชาย)
|
car
|
Toyota ( ชื่อยี่ห้อรถ )
|
month
|
January ( ชื่อของเดือน)
|
road
|
Sukhumvit ( ชื่อถนน )
|
university
|
Chulalongkorn ( ชื่อมหาวิทยาลัย)
|
ship
|
U.S.S. Enterprise ( ชื่อเรือ )
|
country
|
Thailand (ชื่อประเทศ )
|
ข้อสังเกต
1. คำนามที่เขียนขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่
(Capital Letter) มักจะเป็นคำนามเฉพาะ (Proper Nouns)
เช่น
· Bangkok
is a capital of Thailand. (กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย)
(ตัวที่พิมพ์ด้วยตัวหนาเป็นคำนามเฉพาะ)
2. คำนามที่เขียนด้วยอักษรตัวเล็ก
มักจะเป็นคำนามทั่วไป (Common Nouns)
· the
students are playing table-tennis. (นักเรียนกำลังเล่น เทนนิส)
· my
mother is a nurse. (แม่ของฉันเป็นพยาบาล)
(ตัวที่พิมพ์ตัวหนา เป็นคำนามทั่วไป)
3. Countable
noun (คำนามนับได้)
คือ
คำนามที่นับจำนวนได้ มีรูปเอกพจน์ (singular form) และรูปพหูพจน์ (plural
form) เป็นนามที่สามารถแยกนับจำนวนหนึ่ง สอง สาม... ได้
ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีรูปร่างก็ได้
มีรูปร่าง
(สามารถสัมผัสได้ ) : เช่น dog, chair , tree, school, country, student, biscuit
ไม่มีรูปร่าง
( ไม่สามารถสัมผัสได้ )
: เช่น day , month,
year, weekend, journey
กิจกรรม
: job, assignment
เอกพจน์: เช่น dog, country, day, year
พหูพจน์
:
เช่น dogs,
countries, days, years
การเปลี่ยนรูปเอกพจน์เป็นรูปพหูพจน์มีดังนี้
กลุ่มที่
1 คำนามส่วนมาก เติม s
ที่รูปเอกพจน์เมื่อต้องการรูปพหูพจน์ เช่น คำต่อไปนี้
Singular Form
|
Plural Form
|
Boy
|
boys
|
Table
|
tables
|
Teacher
|
teachers
|
กลุ่มที่ 2 คำนามที่ลงท้ายด้วย o, ch, s, ss, sh, x,
และ z ต้องเติม es
Singular Form
|
Plural Form
|
Potato
|
potatoes
|
Watch
|
watches
|
Bus
|
buses
|
Glass
|
glasses
|
Brush
|
brushes
|
ข้อยกเว้น
1. คำที่ลงท้ายด้วย o เช่น buffalo ใช้ได้ 2 แบบ คือเติม es
ดังนี้ buffaloes
หรือใช้รูปเดิมก็ได้ คือ buffalo
2. คำนามที่ลงท้ายด้วย o ที่มาจากภาษาอื่น
หรือคำที่เป็นคำย่อ ให้เติม s เท่านั้น เช่น
คำต่อไปนี้
kilo = kilos photo = photos
piano = pianos dynamo = dynamos
กลุ่มที่ 3 คำนามที่ลงท้ายด้วย y โดยอักษรที่นำหน้า y
เป็นรูปพยัญชนะต้องเปลี่ยน y
เป็น i ก่อนเติม es
เช่น
Singular Form
|
Plural Form
|
baby
|
babies
|
country
|
countries
|
fly
|
flies
|
แต่คำนามที่ลงท้ายด้วย y โดยอักษรที่นำหน้า y
เป็นรูปสระ
ให้เติม s เช่น
boy
= boys monkey = monkeys
กลุ่มที่ 4 คำนามที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe
ต้องเปลี่ยน f
หรือ fe เป็น ves
เช่น
Singular Form
|
Plural Form
|
loaf
|
loaves
|
leaf
|
leaves
|
wife
|
wives
|
half
|
halves
|
thief
|
thieves
|
กลุ่มที่ 5 คำนามต่อไปนี้มีรูปพหูพจน์เฉพาะ โดยเปลี่ยนภายในคำ
เช่น
Singular Form
|
Plural Form
|
man
|
men
|
woman
|
women
|
foot
|
feet
|
tooth
|
teeth
|
goose
|
geese
|
mouse
|
mice
|
louse
|
lice
|
child
|
children
|
4.
Uncountable noun (คำนามนับไม่ได้)
1. คำนามที่เรียกสิ่งที่นับจำนวนไม่ได้หรือไม่สามารถแยกนับเป็นหนึ่ง
สอง สาม ฯลฯ ได้ เช่น
water (น้ำ)
|
sugar (น้ำตาล)
|
milk (นม)
|
jam (แยม)
|
oil (น้ำมัน)
|
dust (ฝุ่น)
|
sand (ทราย)
|
air (อากาศ)
|
salt (เกลือ)
|
2. คำนามที่บอกการกระทำ (action)
คุณสมบัติ (quality) หรือ สภาพ (state)
ซึ่งไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้
เรียกว่า อาการนาม (abstract noun) ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดได้ในเรื่อง
อาการนาม เช่น information (ข้อมูล), advice (คำแนะนำ) เป็นต้น
3. คำนามที่เป็นชื่อวิชาหรือชื่อกีฬา
เช่น
history (ประวัติศาสตร์)
|
geography (ภูมิศาสตร์)
|
psychology (จิตวิทยา)
|
tennis (เทนนิส)
|
golf (กอล์ฟ)
|
baseball (กีฬาเบสบอล)
|
5. Collective noun (สมุหนาม)
เป็นนามที่อยู่รวมกันเป็นหมู่เป็นพวก เช่น
family
(ครอบครัว)
|
team
(ทีม)
|
company
(บริษัท)
|
army
(กองทัพบก)
|
government
(รัฐบาล)
|
committee (กรรมการ)
|
จะใช้กริยาเป็นเอกพจน์ก็ได้
แล้วแต่ความหมาย ถ้าหมายถึงกลุ่มเดียว (unit) ก็ใช้กริยาเป็นเอกพจน์
ถ้าหมายถึงจำนวนแยกแยะรายตัวบุคคล (individual) ก็ใช้กริยาเป็นพหูพจน์
The committee has agreed on a plan. (คณะกรรมการทั้งคณะเห็นพ้องกันในแผนการ)
The committee
have not agreed on the plan. (คณะกรรมการแต่ละคนไม่มีความเห็นพ้องกันในแผนการ)
6. Abstract
Noun (อาการนาม)
ได้แก่คำนามที่เรียกสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง
เช่น honesty
คำนามประเภทนี้เป็นคำนามที่บอกการกระทำ (action) คุณสมบัติ (quality) หรือสภาพ (state) ซึ่งไม่มีตัวตนที่จับต้องได้ อาการนามเป็นคำนามที่นับไม่ได้ เช่น
shopping (ช้อปปิ้ง)
|
camping (แคมป์ปิ้ง)
|
ability (ความสามารถ)
|
decision (การตัดสิน)
|
hope (ความหวัง)
|
horror (ความน่ากลัว)
|
poverty (ความยากจน)
|
richness (ความร่ำรวย)
|
Knowledge (ความรู้)
|
7.
คำนามที่เป็นรูปธรรม (Concrete Noun)
คำนามวัตถุ
/ คำนามที่ใช้เรียกสิ่งที่เป็นรูปธรรม (material
noun / concrete noun) คำนามประเภทนี้เป็น mass noun เป็นคำนามที่เรียกสิ่งของที่มีรูปร่าง อยู่เป็นกลุ่มก้อน แต่นับไม่ได้
ต้องระบุจำนวนมากน้อยโดยบอกเป็นปริมาณ และเป็นคำนามที่บ่งบอกถึงเนื้อวัตถุ จะมีรูปเป็นเอกพจน์และใช้กับกริยาเอกพจน์เสมอ
เช่น rice, soap, gold, water,
wood
คำนามวัตถุจะไม่ใช้คำกำกับนาม
a/an นำหน้า เช่น
· Rice
is grown in Thailand.
· Gold
is very expensive these days.
วิธีระบุปริมาณของคำนามวัตถุ
ต้องใช้ common noun มาช่วยแสดงปริมาณโดยใช้รูปแบบกลุ่มคำ
ดังนี้ (common noun + of + material noun) เช่น
a
glass of water
|
a
jug of milk
|
a
cup of tea
|
a
loaf of bread
|
a
bar of soap
|
a
cube of sugar
|
a
piece of paper
|
a
bag of rice
|
วิธีทำเป็นพหูพจน์ ต้องเปลี่ยนที่ common
noun ดังนี้
· He
drinks two glasses of milk every morning.
· She
bought three loaves of bread.
· Please
give me five pieces of writing paper.
คำนามวัตถุจัดเป็นประเภทได้ดังนี้
พวกที่เป็นอาหาร ได้แก่ ประเภทเนื้อและพืชผลต่างๆ เช่น
meat (เนื้อ)
|
pork (เนื้อหมู)
|
bread (ขนมปัง)
|
fish (ปลา)
|
beef (เนื้อวัว)
|
cheese (ชีส)
|
พวกที่เป็นสารธรรมชาติและแร่ธาตุต่างๆ
เช่น
gold (ทอง)
|
iron (เหล็ก)
|
cement (ปูนซีเมนต์)
|
silver (เงิน)
|
oxygen (ออกซิเจน)
|
stone (หิน)
|
8.
Compound Nouns (คำนามผสม)
คำนามผสมเป็นการเอาคำตั้งแต่สองคำขึ้นไปมาผสมกันซึ่งเป็นการผสมระหว่าง
1.noun
+noun
girl
+ friend = girlfriend เพื่อนหญิง
2. verb + noun
work
+ man = workman กรรมกร
3. noun + verb
hair + cut = haircut การตัดผม
4. verb + prep.( Preposition)
hold
+ up = holdup การปล้น
5. adj.( adjective)+
noun
green
+house = greenhouse เรือนกระจก

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น